ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย มีตัวแทนจากทวีปเอเชียร่วมโม่แข้ง 5 ทีม ซึ่งแต่ละทีมอยู่ในกลุ่มที่หนักหนาสาหัสพอสมควร ทำให้ก่อนการแข่งขันหลายๆ ชาติจากเวทีไถูกจับตามองว่า ใครจะสามารถไปได้ไกลที่สุด ในศึกเวิลด์คัพ 2018 หนนี้ ซึ่งผลปรากฏว่า แข้ง “ซามูไร” ทีมชาติญี่ปุ่น กลายเป็นทีมไปไกลถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ออสเตรเลีย
ทัพออสซี่ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 5 และเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันโดยในรอบแรก จะอยู่กลุ่มเอร่วมกับ ทีมชาติฝรั่งเศส, ทีมชาติเปรู และทีมชาติเดนมาร์ก จะว่าหนักก็ไม่ถึงกับหนักมาก โดยประเดิมเกมแรกกับ ฝรั่งเศส น่ามีแต้ม สู้กันอย่างสนุก แพ้เพราะ 1 จุดโทษ และทำเข้าประตูตัวเอง แพ้ไป 1-2 เกมต่อมาเสมอ เดนมาร์ก 1-1 ปิดฉากด้วยการแพ้ เปรู 0-2
อย่างไรก็ตาม 2 ประตูที่ออสเตรเลียยิงได้ มาจากจุดโทษทั้งหมด ยิงเข้ากรอบ 3 เกมรวม 8 ครั้งเท่านั้น ปัญหาหลักมาจากการไม่มีตัวจบสกอร์ที่พึ่งพาได้ แต่ในรอบสุดท้าย ยังต้องเด็ดขาดกว่านี้อีกเยอะ
ญี่ปุ่น
ขุนพลซามูไร ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน เคยทำผลงานดีที่สุดคือเข้าถึงรอบ 16 ทีม 2 ครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่พวกเขาหวังจะทำให้ได้อีกครั้ง โดยนัดสุดท้ายเจอกับ โปแลนด์ ที่ตกรอบไปแล้ว เกมกับโปแลนด์ เมื่อญี่ปุ่นรู้ว่าเซเนกัลโดนโคลอมเบียนำ พวกเขาเล่นกันแบบระวังตัว เพื่อไม่ให้โดนใบเหลือง ใบแดง จนคะแนนแฟร์เพลย์เป็นรองเซเนกัล รูปแบบการเล่นไม่สวยงาม และเอาตัวรอดเข้ารอบ 16 ทีมได้
เกาหลีใต้
ฟุตบอลโลกครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของทีมโสมขาว เพราะแพ้ สวีเดน กับ เม็กซิโก ตกรอบแรกไปแบบไม่ได้ลุ้น ทั้งๆ ที่เป็นทีมความหวังสูงสุดของชาวเอเชีย จากผลงานในอดีต และซุปเปอร์สตาร์หลายคน ทั้ง ซอน เฮือง มิน จากทอตแนมฮอตสเปอร์ กี ซองเยือง มิดฟิลด์ตัวเก๋าจากสวอนซี และ คู จาชอล จากเอาช์บวร์ก
2 แมตช์แรกของเกาหลีใต้ แพ้สวีเดน 0-1 แพ้เม็กซิโก 1-2 แต่มาสร้างชื่อด้วยการทำเซอร์ไพรส์ชนะ “แชมป์เก่า” เยอรมนี 2-0 แบบช็อกโลก แถมยังฉุดทีมอินทรีเหล็กกลับบ้านไปแบบเจ็บปวด กลายเป็นทีมจากเอเชียทีมแรกที่ชนะเยอรมนีได้ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
อิหร่าน
ผลจับสลากแบ่งกลุ่มเวิลด์คัพ รอบสุดท้ายออกมาก็เห็นสภาพแล้วว่าอิหร่านน่าจะกลับบ้านตั้งแต่รอบแรกแบบสะบักสะบอม โปรตุเกส, สเปน, โมร็อกโก เหนือกว่าอิหร่านอย่างไม่ต้องสงสัย
นัดแรกก็มีเซอร์ไพรส์แล้ว เพราะเชือดโมร็อกโกที่มีนักเตะเล่นอยู่ในยุโรปมากมาย 1-0 เปิดโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ดียังมีเกมหนักรออยู่อีก 2 แมตช์ นัดต่อมาแพ้สเปน 0-1 แบบสู้ได้ และนัดสุดท้ายยิงจุดโทษตีเสมอโปรตุเกส 1-1 เฉียดเข้ารอบแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ถ้าสเปนไม่ยิงตีเสมอโมร็อกโกในช่วงทดเจ็บ อิหร่านจบอันดับ 3 ของกลุ่ม เก็บได้ถึง 4 แต้ม น้อยกว่าสเปนและโปรตุเกสที่เข้ารอบไปเพียงแต้มเดียว
ซาอุดีอาระเบีย
เปิดหัวนัดแรกก็โดน “เจ้าภาพ” รัสเซียถล่ม 5-0 แล้ว ถูกคาดการณ์ว่าเกมกับอุรุกวัยและอียิปต์คงโดนกะซวกประตูเป็นว่าเล่น แต่ตรงกันข้าม แมตช์ต่อมาเล่นแพ้อุรุกวัย 0-1 ถ้าไม่ได้ความสุดยอดของหลุยส์ ซัวเรซ ในเกมที่ 100 ของเขากับทีมชาติล่ะก็ อุรุกวัยน่าจะได้แค่แต้มเดียวไปแล้ว
และถึงแม้จะตกรอบแรกไปก่อน แต่เกมสุดท้ายกับอียิปต์ของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซาอุฯเก็บ 3 แต้มกลับบ้านได้ ชนะไป 2-1 ถึงจะมีจังหวะจุดโทษแบบไม่น่าได้ก็ตาม
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
ติดตามเราจากโซเชียล Facebook Twitter Instagram และ YouTube