ไม่อยากพลาดsbobetทีเด็ดและการวิเคราะห์บอลโลก 2018รวมถึงการอัพเดตฟุตบอลโลก 2018ติดตามที่นี่ที่เดียว
“เจ้าภาพ” รัสเซีย ได้ อีกอร์ อคินเฟเยฟ สวมบทฮีโร่ของชาติ หลังต้านทานการบุกของสเปนอยู่หมัด ครั้งก่อนยื้อต่อเวลาเจ๊า 1-1 ลากยาวไปเอาชนะดวลจุดโทษ 4-3 ตบเท้าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ
ฟุตบอลโลกเกมนี้ ทัพ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน ของเฟร์นานโด เอียร์โร่ ปรับเปลี่ยนผู้เล่นสองตำแหน่งโดยส่ง นาโช่ เฟร์นานเดซ และ มาร์โก อเซนซิโอ ลงเล่นแทนดานี่ การ์บาฆาล และอันเดรส อิเนีนสต้า ส่วน “เจ้าภาพ” รัสเซีย ส่งอเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ที่ได้พักในเกมล่าสุดกลับมาเป็นตัวจริง ในแดนหน้าวาง อาร์เต็ม ดีซูบา ศูนย์ร่างยักษ์ยืนค้ำหอกในแดนหน้า
เริ่มเกมได้เพียง 12 นาที สเปนขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ยูริ ซีร์คอฟ ไปทำฟาวล์ใส่นาโช่ เฟร์นานเดซ เป็นลูกฟรีคิกทางด้านขวา ก่อนที่มาร์โก อเซนซิโอ้ เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษ บอลไปตกบนเท้าของเซอร์เกย์ อิกนาเชวิช ที่กำลังเบียดชิงพื้นที่กับเซร์คิโอ รามอส เข้าประตูตัวเอง กระทิงดุ ออกนำ 1-0
แต่แล้วหมีขาวพยายามบุกจนมาได้จุดโทษ จากจังหวะเตะมุมเปิดมาแล้วซูบาโหม่งไปติดแขนปิเก้ที่ยกชูขึ้นมา กรรมการนิ่งไปนิดนึงก่อนจะเป่าเป็นจุดโทษและซูบารับหน้าที่ยิงเข้าไป รัสเซียตามตีเสมอเป็น 1-1 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
ช่วงครึ่งหลัง สเปนยังลำบากหาทางเจะาผ่านเกมรับของรัสเซียไม่เจอ ได้แค่เคาะเปลี่ยนฝั่งไปมาเพราะเจ้าภาพลงมากองกัน 11 คนในแดนตัวเองกันทั้งหมด เพื่อรักษาสกอร์และยื้อไปลุ้นจุดโทษ ซึ่งก็สามารถทำได้สำเร็จ เมื่อในช่วงต่อเวลาพิเศษก็ยังไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกจุดโทษ
สำหรับการดวลเป้าในเวิลด์คัพ รอบสุดท้ายครั้งนี้ เป็นเจ้าภาพยิงได้แม่นกว่าเอาชนะไป 4-3 โดย อากินเฟเยฟ กัปตันทีมรัสเซียเป็นฮีโร่ เซฟสองจุดโทษพาเจ้าภาพผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ขณะเดียวกันหลังจบเกม อันเดรียส อิเนียสต้า ก็ประการอำลาการเล่นให้กับทีมชาติสเปนทันที
นี่คือเกมสุดท้ายของผมในนามทีมชาติสเปน การเดินทางอันน่าอัศจรรย์ได้สิ้นสุดลงแล้ว และบางครั้งปลายทางมันก็ไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่ฝันเสมอไป” อิเนียสต้า กล่าว
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน