ฟุตบอลฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2018รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สนาม คาซาน อารีน่า
เสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561
กรรมการ อาลิเรซ่า ฟากานี่
ฝรั่งเศส4-3อาร์เจนติน่า
รายชื่อผู้ทำประตู
1-0 อองตวน กรีซมันน์ 13′ (Pen.)
2-2 แบงจาแมง ปาวาร์ 57′
3-2 กีแลง เอ็มบาปเป้ 63′
4-2 กีแลง เอ็มบาปเป้ 67′
1-1 อังเคล ดิ มาเรีย 41′
1-2 กาเบรียล แมร์กาโด้ 48′
4-3 เซร์คิโอ อเกวโร่ 90+2′
ไฮไลท์ ฟุตบอลฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2018
ทั้งสองชาติเจอกันแค่ 2 ครั้งในรอบ 32 ปีหลังโดยอาร์เจนติน่าชนะในเกมกระชับมิตรปี 2007 และ 2009 แต่ฝรั่งเศสไม่เคยตกที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายมาตั้งแต่ปี 1986 แล้ว โดยเกมนี้ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ยังไม่เปลี่ยนแปลงทีมเท่าไหร่ใช้อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบาปเป้และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์เป็นสามประสานแดนหน้าโดย พอล ป็อกบา จากเวที พรีเมียร์ลีกยืนทำเกมด้านหลัง
ด้านอาร์เจนติน่ามีการเปลี่ยนแปลงแผงแนวรุกให้คริสเตียน ปาวอนมาลงเล่นเป็นปีกขวาแล้วดันลิโอเนล เมสซี่ยืนหน้าเป้าส่วนอังเคล ดิ มาเรียยืนซ้ายโดยที่เซร์คิโอ อเกวโร่และกอนซาโล่ อิกวาอินเป็นสำรองทั้งคู่ ซึ่งที่ผ่านมาฟ้า-ขาวดวลเป้าในฟุตบอลโลกมากที่สุดถึง 5 ครั้งและผ่านเข้ารอบไปได้ 4 หน
นาที 8 เปิดเกมขึ้นมาฝรั่งเศสได้โอกาสก่อนจากฟรีคิกนอกกรอบ 20 หลามีป็อกบายืนกับกรีซมันน์ก่อนเป็นดาวเตะจากแอตเลติโก มาดริดปั่นด้วยซ้ายบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่ไปชนคานชนิดที่อาร์มานี่ได้แต่ป้องกันด้วยสายตา
GOAL !!!
นาที 12 เป็นจังหวะสำคัญเลยเมื่อเอ็มบาปเป้ใช้ความเร็วควบเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนโดนโรโฮเหนี่ยวล้มลงไปกรรมการไม่มีทางเลือกต้องเป่าเป็นจุดโทษก่อนเป็นกรีซมันน์สังหารเข้าไปไม่พลาดฝรั่งเศสนำ 1-0
นาที 19 ฝรั่งเศสสวนกลับเร็วแล้วเกือบได้เลยเมื่อโยนบอลยาวไปให้เอ็มบาปเป้ควบเข้าหากรอบเขตโทษแต่ยังมีทาเกลียฟิโก้ตามเข้ามาเสียบจนล้มกลิ้งไปกรรมการเป่าเป็นการฟาวล์นอกกรอบอาร์เจนติน่าไม่เสียจุดโทษแล้วป็อกบายิงฟรีคิกออกไปไกล
นาที 25 จังหวะสวนกลับของฝรั่งเศสได้ลุ้นอีกแล้วเป็นทางกรีซมันน์ลากบอลขึ้นทางไปริมเส้นด้านขวาแล้วตัดเข้าหากรอบเขตโทษทาเกลียฟิโก้พยายามเบียดแต่เอาไม่อยู่ทว่ากรีซมันน์ดันเปิดไม่ดีเท่าไหร่อาร์มานี่พุ่งคว้าเอาไว้ได้
นาที 27 อาร์เจนโวยวายจะเอาจุดโทษจากจังหวะที่แมร์กาโด้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วปิดเข้ากลางบอลไปโดนแขนของอุมติตี้เปลี่ยนทางแต่กรรมการไม่ยอมเป่าโบกมือให้เล่นต่อไปและไม่ดู VAR ด้วย
นาที 38 กรีซมันน์ครองบอลรอเพื่อนแล้วมีปาวาร์โฉบขึ้นมาก่อนแทงบอลไปให้ทำให้หลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแล้วพยายามเปิดไปที่เสาแรกชิรูด์วิ่งเข้ามากระโดดโขกแต่ไม่โดนบอลทำให้เลยออกไป
GOAL !!!!
นาที 41 แฟนบอลฟ้า-ขาวเฮสนั่นสนามเมื่อได้ประตูตีเสมอจนได้ต้องชมความเยี่ยมยอดของดิ มาเรียที่รับบอลต่อมาจากบาเนก้าแล้วไม่มีนักเตะฝรั่งเศสเข้าหาเลยตัดสินใจปั่นด้วยซ้าย 25 หลาบอลพุ่งผ่านมือญอริสเข้าไปอย่างสวยงาม 1-1
นาที 46 ซามเปาลีตัดสินใจเปลี่ยนตัวทันทีโดยถอดเอามาร์กอส โรโฮที่มีใบเหลืองติดตัวออกไปแล้วส่งเฟเดริโก้ ฟาซิโอ้ลงมายืนเป็นเซ็นเตอร์แทนในช่วงครึ่งหลัง
GOAL !!!!
นาที 48 กลายเป็นฟ้า-ขาวได้ประตูขึ้นนำเฉยเลยจากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายบาเนก้าโยนบอลเลยออกมาเมสซี่จับบอลได้ก่อนม้วนตัวแล้วยิงยัดเข้าไปบอลไปโดนเท้าซ้ายของแมร์กาโด้เปลี่ยนทางเข้าไปชนิดที่ญอริสหมดสิทธิ์อีกแล้ว
นาที 56 การสื่อสารที่ผิดพลาดของอาร์เจนติน่าเกือบทำให้ทีมเสียประตูเมื่อฟาซิโอ้พยายามบังบอลก่อนคืนหลังให้อาร์มานี่ที่วิ่งสวนออกมาแล้วถลำไปโดยมีกรีซมันน์วิ่งบีบมาเล่นแถมได้ยิงด้วยแต่มุมไม่มีแล้วบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียวไส้
GOAL !!!!
นาที 57
ฝรั่งเศสตามตีเสมอจนได้เริ่มจากเอร์นานเดซเติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดไปทางเสาไกลบอลเลยไปถึงปาวาร์ไม่พูดพร่ำทำเพลงวิ่งเข้ามาตะบันด้วยขวาระยะ 20 หลาบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงามชนิดที่อาร์มานี่บินไม่ถึงเพราะมุมดิกเลย
GOAL !!!
นาที 63 ยิงกันสนั่นหวั่นไหวจริงๆสำหรับคู่นี้พลิกไปพลิกมาอีกรอบเป็นฝรั่งเศสแซงขึ้นนำเริ่มจากป็อกบาถ่างออกซ้ายให้เอร์นานเดซเปิดเข้ากลางให้มาตุยดี้ยิงติดบล็อคบอลกระดอนมาหาเอ็มบาปเป้แต่งหนึ่งจังหวะแล้วยัดด้วยซ้ายเผาขนอาร์มานี่เซฟไม่ได้อีกตามเคย
GOAL !!!
นาที 67 ไปกันใหญ่แล้วสำหรับอาร์เจนติน่าและต้องบอกว่าเป็นวันของเอ็มบาปเป้อย่างแท้จริงโดยเป็นการต่อบอลจากหน้าประตูขึ้นมาเลยกรีซมันน์ไหลให้ชิรูด์ต่อไปให้เอ็มบาปเป้วิ่งเข้ามาแปด้วยขวาสุดคมหนีมืออาร์มานี่เข้าไปเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้
นาที 75 แฟนบอลอาร์เจนส่งเสียงยกนิ้วให้ซามเปาลีกันทั่วโลกเมื่อส่งขวัญใจมหาชนลูกชายสุดที่รักอย่างแม็กซิมิเลียโน่ เมซ่าลงมาแก้เกมไม่รู้ให้ฝั่งตัวเองหรือฝั่งตรงข้ามโดยถอดเอาคริสเตียน ปาวอนออกไปทำให้เปาโล ดีบาล่าต้องนั่งตบยุงไปอีกนัด
นาที 81 เมซ่าลงมาทำเรื่องเลยแต่ดูเหมือนไม่ได้เรื่องเมื่อได้บอลทางกราบขวาไม่มีใครประกบก้มหน้าก้มตายิงหรือเปิดไปในกรอบเขตโทษก็ไม่รู้แล้วก็โดนบล็อคแล้วบอลก็ไปเข้ามือของญอริส
นาที 85 โอกาสของเมสซี่มาแล้วแต่ทำไม่ได้เมื่อพยายามกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษจนหลุดแต่บอลไปเข้าเท้าขวาเลยพยายามยิงแบบเสียหลักไปแล้วทำให้บอลเบาเข้ามือของญอริส
GOAL !!!
นาที 90+2 เหมือนความหวังเล็กๆของอาร์เจนติน่ากลับมาเมื่อเมสซี่โยนบอลไปให้อเกวโร่ได้โขกในกรอบหกหลาไม่พลาดทำให้สกอร์ตอนนี้เป็น 4-3 แล้ว
ช่วงท้ายอาร์เจนติน่าพยายามบุกแต่ทำอะไรไม่ได้ต้องพ่ายแพ้ไป 4-2 ตกรอบไปเรียบร้อยขณะที่ฝรั่งเศสได้ตบเท้าเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีวันดีคืนจริงๆ
11 ตัวจริงทั้งสองทีม
ฝรั่งเศส (4–2–3–1) : อูโก้ โยริส – แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, ซามูแอล อุมตีตี้, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ – เอ็นโกโล ก็องเต้, ปอล ป็อกบา – คิลียัน เอ็มบาปเป้, อองตวน กรีซมันน์, แบลส มาตุยดี้ – โอลิวิเยร์ ชิรูด์
อาร์เจนตินา (4-3-3) : ฟรังโก้ อาร์มานี – กาเบรียล เมร์กาโด้, นิโกลัส โอตาเมนดี้, มาร์กอส โรโฮ, นิโกลัส ตาญาฟีโก้ – เอ็นโซ เปเรซ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน, เอเวร์ บาเนก้า – คริสเตียน ปาวอน, ลิโอเนล เมสซี, อังเคล ดิ มาเรีย
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน