ฟุตบอลฟีฟ่า 2018 รอบก่อนรองชนะเลิศ
สนาม โอลิมปิสกี้ สตาดิโอน ฟิชท์, โซชิ
วันเสาร์ที่ 7 กรกฏาคม 2561
กรรมการ ซานโดร ริชชี่
ต่อเวลาพิเศษ. รัสเซีย2-2โครเอเชีย
โครเอเชีย ชนะการดวลจุดโทษ 4-3
รายชื่อผู้ทำประตู
รัสเซีย
เดนิส เชอรีเชฟ (31′)
มาริโอ แฟร์นานเดส (115′)
โครเอเชีย
อังเดร ครามาริช (39′)
โดมากอย วิด้า (100′)
ไฮไลท์ ฟุตบอลฟีฟ่า 2018
โครเอเชีย ลงสนามรอบก่อนรองชนะเลิศปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อยเมื่อถอดมิดฟิลด์ตัวรับ มาร์เซโล โบรโซวิช ออกแล้วส่งตัวรุกอย่างอังเดร ครามาริช ลงเป็น 11 ตัวจริง มีอิวาน เปริซิช แห่งศึกฟุตบอล เซเรียอา อิตาลี และอันเต้ เรบิช คอยทำเกมริมเส้น โดยทีเด็ดของทีมยังอยู่ที่กลางคุมจังหวะของสองมิดฟิลด์เทพอย่าง ลูก้า โมดริช และอิวาน ราคิติช เช่นเดิม
รัสเซีย เปลี่ยนทีมแค่ 1 ตำแหน่งใช้เดนิส เชอรีเชฟ แทนที่ยูริ เซียร์คอฟ คอยปั้นเกมรุกทางซ้าย ขณะที่อลัน ซาโกเยฟ ดาวเตะประจำทีมซึ่งเจ็บไปตั้งแต่เกมนัดแรก เกมนี้ยังมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น
เรื่องน่ารู้
รัสเซีย ปะทะโครเอเชีย มา 3 หน สองหนจบลงที่ผลเสมอ 0-0 และโครเอเชียชนะ 3-1 เมื่อปี 2015
โครเอเชีย ทำได้ถึง 8 ประตู จาก 4 นัดในฟุตบอลโลกหนนี้ ซึ่งเท่ากับพวกเขาเล่น 6 แมตช์จากฟุตบอลโลกสองสมัยในปี 2006 และ 2014 เลยทีเดียว
รัสเซีย มีโอกาสยิงเข้ากรอบถึง 10 ครั้งจาก 2 นัดแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ แต่ 2 เกมหลังจากนั้นพวกเขามีโอกาสยิงเข้ากรอบแค่ 2 หนเท่านั้น
10 ประตูจาก 12 ลูกที่โครเอเชีนทำได้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เกิดขึ้นในครึ่งหลัง
มาริโอ มานด์ซูคิช ยิงประตูที่ 3 ในฟุตบอลโลกให้โครเอเชียในเกมพบเดนมาร์ก ตอนนี้มีแค่เพียงดาวอร์ ซูเคอร์ เท่านั้นที่ยิงได้มากกว่าเขาในฟุตบอลโลก (6 ประตู)
นาที 5 รัสเซีย ฮึกเหิมตามเสียงเชียร์ของแฟนบอลเจ้าถิ่น เปิดฉากกดดันสูงโครเอเชียตั้งแต่เริ่มต้นเกม และมีลุ้นก่อนเลยจากจังหวะที่กองหลังโครแอตโหม่งสกัดบอลไม่ขาดลูกมาตกใส่ทางปืน ซูบา ฮาล์ฟวอลเล่ย์ไปติดบล็อคลอฟเรนซะก่อน
นาที 6 ถัดจากนั้นเป็นโครเอเชียที่ได้ลุ้นบ้าง จากลูกยิงมุมแคบทางขวาของเรบิช อคินเฟเยฟ ไม่พลาดทิ้งตัวเซฟบอลไว้ได้ทัน ก่อนที่เรบิชจะได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกโหม่งแต่ข้ามคานไปอีก
นาที 10 ทัพโครแอตตั้งหลักได้แล้ว เมื่อเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้เยอะกว่า จังหวะนี้ เวอร์ซาลจ์โก้ เติมเกมสูงทางขวาก่อนครอสเรียดเข้าไปหน้าประตูให้มานด์ซูคิชเข้าฮอส แต่หัวหอกทำไม่ดีเตะบอลแป๊กลูกลอยโด่งหลุดกรอบไปแบบน่าเสียดาย
นาที 20 20 นาทีผ่าน เกมของโครเอเชียดีกว่าชัดเจน แต่รัสเซียเองก็แพ็คเกมรับได้ดีแถมยังมีจังหวะตอบโต้กลับด้วยลูกวางยาวได้ลุ้นอยู่ในบ้างจังหวะอีกด้วย
นาที 28 โครแอตมีโอกาสอีกครั้งจากการขึ้นเกมทางกราบขวาของเวอร์ซาลจ์โก้ตามเดิม คราวนี้เขาครอสบอลเข้าไปกลางประตูให้เปริซิชทิ้งตัวสะบัดบอลไปที่เสาไกล บอลโดนบางเกินกว่าจะหวังผลเป็นประตู
GOAL !!!!
นาที 31 รัสเซียขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงสุดสวยของเชอรีเชฟ เริม่จากจังหวะที่ตัวเขาเองปั้นบอลเดินเกมจากครึ่งสนามก่อนฝากบอลให้ซูบาแล้วกลับมาแต่งบอลเข้าซ้ายข้างถนัดแล้วซัด 25 หลาบอลพุ่งแรงฮุคเสียบมุมเสาชนิดเอาไปเลยคะแนนความสวยงาม 10/10
นาที 35 พอออกนำกำลังใจมันมาจะเห็นได้ชัดเลยว่าเกมรุกรัสเซียดีขึ้น แนวรับโครแอตดูมีปัญหาในการตามประกบซูบา
GOAL !!!!
นาที 39 โครเอเชียตามตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว เปิดบอลหลุดขึ้นทางซ้ายจนสุดเส้นหลังของ มานด์ซูคิช ก่อนจะตบเข้ามากลางประตูไปที่จุดนัดพบให้ครามาริช โขกโล่งๆในระยะเผาขนคนเดียวกลางวงล้อมกองหลังรัสเซีย 5 ตัว สุดปัญญาที่อคินเฟเยฟจะช่วยป้องกันไว้ได้
นาที 45 หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่ได้โหมเกมหนักใส่กันสักเท่าไหร่ จนกระทั่งจบครึ่งแรกเสมอกันไป 1-1 ไว้กลับเข้าห้องแต่งตัวไปหาวิธีมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง
นาที 50 ออกสตาร์ตครึ่งหลัง โครแอตยังเหมือนในครึ่งแรกเมื่อเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้ดีกว่าทางเจ้าถิ่น แต่โอกาสในพื้นที่สุดท้ายยังไม่จะแจ้งอะไรมากมายนัก
นาที 53 รัสเซีย ปรับเกมด้วยการปรับตัวคนแรกทันทีเมื่อส่งอเล็กซานเดอร์ อีโรคิน แทนที่ซาเมดอฟ
นาที 60 โครเอเชีย ไม่ได้ประตูได้ยังไง เป็นจังหวะที่กองหลังรัสเซียโหม่งบอลทิ้งไม่ขาดมาตกที่หน้าประตูตัวเอง และก็เป็นเปริซิชที่ได้บอลแต่งหนึ่งจังหวะแล้วเลือกหักยิงเข้าเสาไกล บอลผ่านมืออคินเฟเยฟไปชนเหลี่ยมในใครก็ต้องติดว่าเป็นประตูแน่แล้ว แต่ที่ไหนได้ ลูกวิ่งผ่านหน้าปากประตูไปเฉยเลย โชคดีมากๆสำหรับเจ้าถิ่น
นาที 62 ความใหญ่ของซูบาสร้างปัญหาในแนวรับโครเอเชียต่อเนื่อง จังหวะนี้เขาได้ขึ้นโหม่งหน้าประตูโครเอเชีย โชคยังดีที่บอลไปตรงตัวซูบาซิช
นาที 63 โครเอเชียปรับแก้เกมบ้างเมื่อถอดเปริซิชออกแล้วส่งมิดฟิลด์ที่ถนัดเกมรับกว่าอย่าง โบรโซวิช ลงสนาม
นาที 70 โครเอเชียต่อบอลทำเกมรุกได้ดีกว่า เกมค่อนข้างเร็วบอลเคลื่อนที่ตลอดเวลา ส่วนรัสเซียก็ยังคงคุมพื้นที่เล่นเกมรับได้เหนียวแน่น เป็นช่วงเวลาที่เร้าหัวใจของแฟนบอลทั้งสองทีม
นาที 72 รัสเซีย นานๆบุกที เซตนี้ต่อบอลเข้าทำสวยงามและได้จบสกอร์ด้วย เป็นการเปิดจากทางขวาของแฟร์นานเดส ให้ตัวสำรองอีโรคิน โหนตัวโขกหน้าประตูแต่บอลข้ามคานไปแบบได้ลุ้น
นาที 76 โครเอเชีย บุกหนักและได้ลุ้นอีกชุดจากบอลขลึงซ้ายที-ขวาที สุดท้ายเป็นโมดริชที่ง้างทางวอลเล่ย์บอลไปติดบล็อคปลิ้นมาให้เวอร์ซาลจ์โก้ได้ยิงซ้ำอีกทีก็ยังไม่ได้ประตู
นาที 79 ซูบาทำงานอย่างหนักจนหมดแรงถูกถอดออกให้กาซินสกี้งเล่นแทน
นาที 85 ทั้งสองทีมยังคงพยายามหาโอกาสปิดสกอร์เพื่อจบเกมนี้
นาที 88 โครแอตทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่งโควาซิชแทนที่ครามาริชในเกมรุก
นาที 89 นายทวารซูบาซิชเกิดเจ็บต้นขาหลังขณะที่ทีมเปลี่ยนตัวไปครบโควตาแล้ว เล่นเอาเกมหยุดไปหลายนาทีเพื่อดูอาการ แต่สุดท้ายก็ฝืนเล่นต่อไปได้
นาที 90+4 เหมือนรัสเซียรู้ว่าซูบาซิชเจ็บ เลยลักไก่ยิงมุมแคยทันที เดือนร้อนมือกาวโครแอตต้องทุบบอลทิ้งเล่นเอาใจหายใจคว่ำ
นาที 90+5 หมดเวลาปกติ รัสเซียยื้อโครเอเชียไว้ที่ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
GOAL !!!!
นาที 100 โครเอเชียที่ป้อแป้นักเตะหมดแรง-บาดเจ็บ แต่กลับทำประตูขึ้นนำ 2-1 ได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมที่ตกเข้าหัววิด้า บอลกระดอนลงพื้นผ่านทุกชีวิตที่อยู่ตรงนั้นพุ่งเสียบตาข่ายชนิดอคินเฟเยฟไม่มีสิทธิ์ป้องกัน
นาที 101 รัสเซีย ส่งไม้ตายคนสุดท้ายลงสนามทันที เป็นซาโกเยฟ แทนที่โกโลวิน
นาที 105 หลังจากเสียประตู รัสเซียบุกแหลกทันที แต่ก็ทำได้ดีสามารถกดดันแนวรับโครเอเชียได้ต่อเนื่องตามประสาคนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
นาที 111 รัสเซียบุกดหนักมาก จังหวะนี้ได้ลุ้นจากลูกวอลเล่ย์ของคูซาเยฟ แต่ซูบาซิชยังเซฟไว้ได้
GOAL !!!!
นาที 115 ในที่สุดความพยายามของรัสเซียก็สัมฤทธิ์ผลตามตีเสมอ 2-2 สำเร็จ เริ่มจากฟรีคิกทางขวา เป็นซาโกเยฟที่บรรจงเปิดเข้าไปหน้าประตูให้แฟร์นานเดส เทกตัวขึ้นโขกโล่งๆไม่พลาดเป้า
นาที 120 สู้กันจนหมดแม็กก็ยังกินกันไม่ลง เสมอกันไป 2-2 ต้องไปลุ้นกันต่อในเกมดวลจุดโทษตัดสิน
ซโมลอฟ – ไม่เข้า
โบรโซวิช – เข้า
ซาโกเยฟ – เข้า
โควาซิช – ไม่เข้า
แฟร์นานเดส – ไม่เข้า
โมดริช – เข้า
อิ๊กนาเชวิช – เข้า
วิด้า – เข้า
คซาเยฟ – เข้า
ราคิติช – เข้า
จบเกมโครเอเชียแม่นจุดโทษกว่า เป็นฝ่ายได้ผ่านเข้าไปตัดเชือกที่สกอร์ 4-3
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน