ฝรั่งเศส ส่งสัญญาณย่ำแย่ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม
ทีมชาติฝรั่งเศส ถูกว่างเป็นทีมเต็งอันดับต้นๆ กับการคว้าแชมป์ ยูโร 2024 ที่เยอรมัน หากวัดจากขุมกำลังของพวกเขา ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่พวกเขาจะไปถึงแชมป์ลูกหนังยุโรปในครั้งนี้ แต่บทสรุปกลับผิดคาด ยิ่งกว่านั้นฟอร์มการเล่นของทัพตราไก่ผิดคาดอย่างไม่น่าเชื่อตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์
ฝรั่งเศส อัดแน่นไปด้วยขุมกำลังเกมรุกชั้นยอดอาทิ อองตวน กรีซมันน์, อุสมาน เดมเบเล่ และ คิเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้าที่ปิดฉากกับ เปแอสเช ด้วยแชมป์ลีกเอิงอีกสมัย และย้ายไปเปิดตัวกับ เรอัล มาดริด ที่เตรียมสร้างตำนานบทใหม่ใน ลา ลีกา สเปน แต่ใครจะคาดคิดว่า ทีมที่ดูเหมือนจะมีศักยภาพพร้อมทุกด้าน กลับปิดฉากเส้นทางก่อนกำหนด เมื่อไปไม่ถึงถ้วยแชมป์ยุโรป
ฝรั่งเศสเป็นทีมยุโรปที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลก 2 สมัยล่าสุด โดยคว้าแชมป์ในปี 2018 และแพ้การดวลจุดโทษให้กับอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก2022 ที่กาตาร์ แต่ฟอร์มของพวกเขาดูไม่เหมือนทีมที่ดีที่สุดในทวีปในรายการนี้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ขวางทางพวกเขาจนทำให้พลาดคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 3 และสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 2000
ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำเซอร์ไพรส์ เมื่อเขาตัดสินใจเรียก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางวัย 34 ปี กลับมาติดทีมอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอยู่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ อดีตดาวเตะเชลซี ได้รับบาดเจ็บหนัก และได้เลือกย้ายไปเล่นในเอเชีย ซึ่งไม่ได้มีความเข้มข้นสูงเหมือนเกมในยุโรป แต่ เดส์ชองส์ เชื่อมั่นในการตัดสินใจของเขา และเชื่อมั่นในนักเตะรายนี้ โดยกล่าวหนักแน่นในวันแถลงข่าวประกาศรายชื่อนักเตะว่า “ก็องเต้ จะพาฝรั่งเศสไปสู่ชัยชนะ”
สิ่งที่กุนซือตราไก่กล่าวเอาไว้ดูเหมือนจะไม่เกินจริง เพราะทันทีที่ลงเล่นในแมตช์แรก ก็องเต้ โชว์ลวดลายยอดเยี่ยมไม่ต่างจากสมัยที่เขาเล่นให้ เชลซี ซึ่งเป็นช่วงที่พีคที่สุดในชีวิตค้าแข้งของเขา
ก็องเต้ ทำหน้าที่เก็บกวาด คอยเชื่อมเกมจนทำให้ฝรั่งเศส มีแต้มประเดิมนัดแรก แม้จะเป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่ผลงานส่วนตัวของ ก็องเต้ ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในแมตช์แรก และได้รับอีกครั้งในแมตช์ต่อมากับ เนเธอร์แลนด์
โดยการได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม 2 แมตช์ติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าอาการบาดเจ็บไม่ได้ทำให้ไอคิวฟุตบอลของเขาลดลง จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือการคาดการณ์จุดอันตรายได้แม่นยำมาโดยตลอด และเขาแสดงให้เห็นตลอดทัวร์นาเมนต์ว่าเขายังมีกำลังมากพอที่จะกำจัดมันออกไป ขณะที่กลุ่มผู้เล่นในแนวรับอย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, วิลเลียม ซาลิบา, จูลส์ คุนเด้, ธีโอ เอร์นันเดซ และผู้รักษาประตู ไมค์ เมญอง ก็ถือว่าทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี โดยเฉพาะรายของ ซาลิบา ตัวรับจาก อาร์เซนอล ที่สุดท้ายฟอร์มเข้าตา เดส์ชองส์ จนได้รับโอกาสลงเล่นเสียที
หลังก่อนหน้านี้เคยถูกเรียกมาติดทีมฟีฟ่าเดย์ก่อนยูโร แต่ไม่ถูกส่งลงเล่นเลย
อย่างไรก็ตามหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ฝรั่งเศส มีฟอร์มที่ผิดคาดคือการเล่นของ เอ็มบัปเป้ ที่เรียกได้ว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุที่เขาได้รับบาดเจ็บจมูกหักตั้งแต่นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม จนต้องพักในเกมกับ เนเธอร์แลนด์ และกลับมาพร้อมกับหน้ากากในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มกับ เบลเยียม
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ เอ็มบัปเป้ ไม่สามารถรีดฟอร์มเก่งออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะแน่นอนว่า มันส่งผลต่อวิสัยทัศน์ในเกมของเขาระหว่างลงเล่น เราจึงเห็นว่าในเกมกับ สเปน เขาเลือกที่จะไม่ใส่หน้ากากลงสนาม แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อ สเปน ในรอบรองชนะเลิศ ทำให้ปิดฉากเส้นทางในรอบนี้เท่านั้น….. และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด ยูโร 2024 และ ยูโร 2024 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ยูโร 2024 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน