ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
รัสเซีย vs โครเอเชีย
วันที่ 8 กรกฎาคม 2018
สนาม ฟิตช์ โอลิมปิก สเตเดี้ยม
เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
วิเคราะห์ฟุตบอล รัสเซีย vs โครเอเชีย
ทีมชาติรัสเซีย หักปากกาเซียนเขี่ยทีมชาติสเปนตกรอบ 16 สุดท้าย ด้วยการชนะจุดโทษ 4-3 (เสมอในเวลา 1-1) บอกได้เลยว่า ทีมชาติรัสเซีย ทำได้เหนือความคาดหมายตั้งแต่นัดแรกจนถึงเกมล่าสุด ซึ่งความดีความชอบบางส่วนยกให้ อิกอร์ อคินเฟเยฟ ผู้รักษาประตูจอมเก๋า พร้อมทั้ง เฟดอร์ สโมลอฟ ที่โชว์ผลงานดี และดาวรุ่งที่น่าจับตามองอย่าง อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน แม้ว่าคีย์แมนอย่าง อลัน ซาโกเยฟ จะบาดเจ็บตั้งแต่เกมแรกและนัดต่อไปยังต้องรอตรวจร่างกาย ทีมหมีขาวก็ไม่ได้ฟอร์มตกลงไปเลย นับได้ว่าแท็คติกที่ปรับใช้งานนั้นมีโอกาสจะพาพวกเขาเข้าสู่รอบลึกๆ ได้ถ้าใช้ถูกทีมถูกเวลา
ทีมชาติโครเอเชีย ที่เอาชนะทีมชาติเดนมาร์กด้วยการยิงจุดโทษไปได้ 4-3 (เสมอในเวลา 1-1) ในรอบน็อคเอาท์ โดยทีมตราหมากรุกผ่านรอบแบ่งกลุ่มในศึกฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่ม D จากการชนะ 3 เกมรวด ยิงได้ 7 ประตู เสียแค่ 1 ประตู ผลต่าง +6 มี 9 แต้มเต็ม และมีเกมที่น่าจดจำนั่คือการยำทีมชาติอาร์เจนตินา 3-0 ซึ่งคีย์แมนของทีมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ลูก้า โมดริช ที่ทำผลงานได้ดีตลอดทั้งทัวร์นาเมน ส่วน เดยัน ลอฟเรน ก็ทำพัฒนากว่าเดิม สำหรับทีมตาหมากรุกชุดนี้มีทรัพยากรผู้เล่นที่หลากหลาย พร้อมทั้งมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่เหนือกว่าทีมคู่แข่ง สามารถคุมเกมได้เสร็จสรรพ และแม้โดนบุกก็ยังสามารถคุมจังหวะต่างๆของเกมได้
ตอนแรกหลายสื่อและกูรูต่างคิดว่า ทีมชาติรัสเซีย อาจจะทำผลงานได้ไม่ดีในรายการนี้ เพราะก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์นี้ทีมหมีขาวไม่ชนะทีมใดเลยถึง 7 นัดติดต่อกัน แต่ทว่ากลับกลายเป็นว่าทีมชาติเจ้าภาพเล่นได้น่าประทับใจ ล่าสุดรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถึงขนาดชนะทีมชาติสเปนในการดวลจุดโทษ ส่วนทางฝั่งทีมชาติโครเอเชียชุดนี้ที่มีทรัพยากรผู้เล่นหลากหลาย โดยเฉพาะในแผงแดนกลางนอกจาก ลูก้า โมดริช เป็นแม่ทัพคนเก่งแล้ว ยังมีตัวสนับสนุนทั้ง อิวาน ราคิติช, มิลาน บาเดลจ์ และ มาร์เซโล่ โบรโซวิช แถมผู้จัดการทีมอย่าง ดาลิช ก็เต็มไปด้วยจิตวิทยาและแท็กติกทั้งก่อนลงสนาม พร้อมการแก้เกมที่เฉียบขาด ดังนั้นอัตราต่อรองล่าสุดจึงยกให้ ทีมชาติโครเอเชีย เป็นฝ่ายชนะไปในเกมนี้
เรื่องน่ารู้
- รัสเซีย และ โครเอเชีย เคยพบกันมาแล้ว 3 ครั้ง ก่อนหน้านี้ เป็นการจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 สองนัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2008 อีกครั้งเป็น โรเอเชีย เอาชนะไปได้ในเกมอุ่นเครื่อง 3-1 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2015 ที่เมืองรอสตอฟ โดย มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นคนทำประตูที่สามให้ โครเอเชีย
- รัสเซีย ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แยกตัวจากสหภาพโซเวียต โดยตอนนั้นพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้ถึง 4 ครั้งติดต่อกันมนช่วงปี 1958 ถึง 1970
- โครเอเชีย เอาชนะเกมในรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยเอาชนะเยอรมันไปได้ในปี 1998 ผ่านเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศในปีนั้นพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
- เจ้าภาพฟุตบอลโลก 5 ประเทศหลังสุดที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ทั้งหมด (อิตาลี 1990, ฝรั่งเศส 1998, เกาหลีใต้ 2002, เยอรมัน 2006 และ บราซิล 2014)
- โครเอเชีย ทำไปแล้ว 8 ประตู จาก 4 เกมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ซึ่งเป็นจำนวนมากเท่ากับการเล่น 6 เกมในฟุตบอลโลกสองหนล่าสุดในปี 2006 ปละ 2014 รวมกัน
สถิติการพบกัน
06 กันยายน 2006 รัสเซีย 0-0 โครเอเชีย (ยูโร)
06 มิถุนายน 2007 รัสเซีย 0-0 โครเอเชีย (ยูโร)
17 พฤศจิกายน 2015 รัสเซีย 1-3 โครเอเชีย (กระชับมิตร)
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
โครเอเชีย (4-2-3-1) : ดานิเยล ซูบาชิช – ซิเม่ เวอร์ซัลโก้, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วีด้า, อีวาน สตรีนิช – อีวาน ราคิติช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช – อันเต้ เรบิช, ลูก้า โมดริช, อีวาน เปริซิช – มาริโอ มานด์ซูคิช
รัสเซีย (4-2-3-1) : อีกอร์ อากินเฟเยฟ – มาริโอ แฟร์นานเดส, อิลยา คูเตปอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, ยูริ ชีร์คอฟ – โรมัน ซ็อบนิน, ยูริ กาซินสกี้ – อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, เดนิส เชรีเชฟ – อาร์เต็ม ชิวบา
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
ติดตามเราจากโซเชียล Facebook Twitter Instagram และ YouTube