ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
โคลอมเบีย vs อังกฤษ
วันที่ 4 กรกฎาคม 2018
สนาม สปาร์ตัก มอสโก
เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
วิเคราะห์ฟุตบอล โคลอมเบีย vs อังกฤษ
ทีมชาติโคลอมเบีย ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยตำแหน่งผู้นำกลุ่ม H แม้ว่าจะเปิดสนามนัดแรกแพ้ญี่ปุ่น 1-2 ก็ตาม แต่แล้วก็มาแก้ตัวได้ด้วยผลงานถล่มโปแลนด์ 3-0 พร้อมปิดฉากเกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเชือดเซเนกัล 0-1 ซึ่งผลงานของทีมชาวไร่กาแฟต้องบอกว่าแม้ไม่ได้ร้อนแรงมากมายแต่ยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ดีพอสมควร สำหรับในเกมที่จะพบกับอังกฤษ ทัพลา ตริโคลอร์ มีปัญหาใหญ่คือ สตาร์เบอร์ 1 ของทีม ฮาเมส โรดริเกซ ได้รับบาดเจ็บต้องออกจากสนามในเกมกับเซเนกัล คงต้องมูกันว่าจะฟิตทันลงสนามเกมนี้หรือไม่ คงต้องฝากความไว้ที่สองผู้เลนจอมเก๋า ออสปิน่า ผู้รักษาประตูและ ฟัลเกา ในแนวรุก
ทีมชาติอังกฤษ ของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยฐานะที่สองของกลุ่ม G พวกเขาทำผลงานได้น่าประทับกว่าฟุตบอลโลกครั้งก่อน เปิดสนามชนะตูนีเซีย 1-2 ตามด้วยการไล่ถล่มปานามา 6-1 ซึ่งมาตกม้าตายในนัดสุดท้ายกับเบลเยี่ยมที่แพ้ไป 1-0 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการพบกับเบลเยี่ยม ทัพสิงโตคำรามได้มีการโรเตชั่นหลายตำแหน่งเพราะการันตรีการเข้ารอบ ดังนั้นมันจึงเป็นผลดีต่อเกมรอบน็อคเอาท์นี้ที่นักเตะตัวหลักของทีมจะมีความฟิตพร้อมลงสนาม
เมื่อพูดถึงสองทีมนี้ ใครๆ ก็จะมองว่าทีมชาติอังกฤษเหนือกว่าก็คงไม่แปลก เพราะด้วยประวัติศาสตร์, ผู้เล่น, สภาพทีม และทักษะฟุตบอลสไตล์เมืองผู้ดีที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งสถิติการพบกันซึ่งทีมชาติโคลอมเบียไม่เคยคว่ำทัพทรีไลอ้อนลงได้สักครั้ง ประกอบกับในรอบแบ่งกลุ่มที่ทีมไร้กาแฟเต็มที่ทุกนัด แต่ในเกมสุดท้ายของอังกฤษได้พักผู้เล่นรายหลาย ส่งผลให้ความฟิตของทีมทัพสิงโตคำรามก็ได้เปรียบ
สถิติการพบกัน 5 ครั้งหลังสุด
20 พฤษภาคม 1970 โคลอมเบีย 0-4 อังกฤษ (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
24 พฤษภาคม 1988 อังกฤษ 1-1 โคลอมเบีย (Rous Cup)
06 กันยายน 1995 อังกฤษ 0-0 โคลอมเบีย (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
26 มิถุนายน 1998 โคลอมเบีย 0-2 อังกฤษ (ฟุตบอลโลก)
31 พฤษภาคม 2005 อังกฤษ 3-2 โคลอมเบีย (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
เรื่องน่ารู้
อังกฤษ ไม่เคยแพ้ โคลอมเบีย ในการพบกัน 5 ครั้งก่อนหน้านี้ (ชนะ 3 เสมอ 2) โดยการพบกันครั้งสุดท้ายย้อนกลับไปเดือนพฤษภาคมปี 2005 ในเมืองนิวเจอร์ซีย์ที่ อังกฤษ เอาชนะไปได้ 3-2 จากแฮตทริคของ ไมเคิ่ล โอเวน
อังกฤษ เอาชนะ โคลอมเบีย ในฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด 2-0 จากประตูของ ดาร์แรน แอนเดอร์ตัน และ เดวิด เบ็คแฮม ในรอบแบ่งกลุ่มปี 1998 โดย แกเร็ธ เซาท์เกต กุนซือทีมชาติ อังกฤษ คนปัจจุบันเป็นตัวสำรองนั่งอยู่ข้างสนามในเกมวันนั้น
โคลอมเบีย ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งที่ 3 และเป็นครั้งแรกที่พวกเขาผ่านเข้ารอบได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน (1990,2014,2018)โดยมีเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาผ่านเข้าไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้คือในปี 2014
3 จาก 5 ประตูของ โคลอมเบีย ในฟุตบอลโลกครั้งนี้มาจากลูกเซ็ตพีช (2 ประตูจากลูกเตะมุมและอีกประตูจาก ฟรีคิก) ขณะที่ อังกฤษ เป็นทีมที่ได้ประตูจากลูกตั้งเตะมากกว่าทีมอื่น ๆ ในรอบแบ่งกลุ่ม (6 ประตู)
โคลอมเบีย ทำประตูได้ทุกนัดใน 8 นัด หลังในฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดของทีมที่ผ่านรอบแบ่งกลุ่มเข้ามา โดยครั้งสุดท้ายที่ โคลอมเบีย ทำประตูไม่ได้ ในฟุตบอลโลกคือในเดือนมิถุนายนปี 1998 ที่แพ้ อังกฤษ 0-2
11 ผู้เล่นตามคาด
อังกฤษ (3-1-4-2) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี แม็คไกวร์ – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – คีแรน ทริปเปียร์, เจสซี ลินการ์ด, รูเบน ลอฟตัส ชีค, แดนนี โรส – แฮร์รี เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด
โคลอมเบีย (4-2-3-1) : ดาวิด ออสปีนา – ซานติอาโก้ อารีอาส, เยร์รี มีนา, ดาวินซอน ซานเชซ, โฮอัน โมฮีก้า – การ์ลอส ซานเชซ, วิลมาร์ บาร์รีออส – ฮวน กวาดราโด้, ฮวน เฟร์นานโด กินเตโร, ฮาเมส โรดริเกซ – ราดาเมล ฟัลเกา
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
