ไม่อยากพลาดSBOBETทีเด็ดและการวิเคราะห์บอลโลก 2018รวมถึงการอัพเดตฟุตบอลโลก 2018ติดตามที่นี่ที่เดียว
ซาอุดิอาระเบียมาได้ประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บพลิกสถานการณ์แซงชนะอียิปต์ 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2018นัดสุดท้ายกลุ่มเอพร้อมกับคว้าชัยชนะเป็นเกมแรกในรอบ 12 นัดในศึกฟุตบอลโลกแต่ก็ต้องตกรอบแรกอย่างน่าเสียดาย
ซาอุดิอาระเบียตกรอบฟุตบอลโลก ไปแล้วหลังแพ้มา 2 นัดติดเกมนี้ทีมปรับทีมหลายตำแหน่งจากนัดแพ้อุรุกวัย 0-1 และเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 ลงสนามในเกมรับใช้คู่เซ็นเตอร์แบ็กฮาวซาวี่ขณะที่เกมรุกในการประสานงานระหว่างอัลมูวัดลัด, อัลฟาราจ, อัลดาวซารี่และซูลตาน
โดยเกมนัดส่งท้ายของทั้งสองทีมไฮไลท์อยู่ที่เอสซัมเอลฮาดารีผู้รักษาประตูทีมชาติอียิปต์ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงซึ่งทำให้เจ้าตัวทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกด้วยวัย 45 ปี 161 วันทุบของเดิมฟาริดมอนดรากอนทำไว้ก่อนหน้านี้โดยแก่กว่าอดีตโกลโคลอมเบีย 2 ปี 158 วัน
อียิปต์ได้ประตูขึ้นนำจากความผิดพลาดของซาอุฯที่เสียบอลบนบริเวณกลางสนามในนาทีที่ 22 และเป็นอับดัลลาห์ซาอิดวางบอลยาวมาให้กับโมฮาเหม็ดซาลาห์แข้งคนดังของลิเวอร์พูลจับบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจะกระดกบอลข้ามหัวยาสเซอร์อัล-โมไซเล็มเข้าประตูไปอียิปต์ขึ้นนำ 1-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกเศรษฐีน้ำมันมาได้ลูกจุดโทษคราวนี้ซัลมานอัล-ฟาราจลุกขึ้นมาสังหารเองและซัดเข้าไปไม่พลาดทำให้ซาอุฯตามตีเสมอ 1-1
ครึ่งหลังซาอุฯครองเกมได้เหนือกว่าอียิปต์อย่างเห็นได้ชัดแต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บซาอุฯมาได้ประตูชัยจากซาเล็มอัล-ดอว์ซาวี่ที่ซัดมุมแคบด้วยเท้าขวาผ่านตัวอัล-โมไซเล็มเข้าประตูซาอุฯพลิกขึ้นนำ 2-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้
ชัยชนะจากเกมนี้ทำให้ทีมจากเอเชียเก็บชัยชนะในเวิลด์คัพ รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 12 นัดพร้อมกับจบอันดับ 3 ของกลุ่มมี 3 คะแนนส่วนอียิปต์รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่มไม่มีแต้มและกอดคอกันตกรอบแบ่งกลุ่มทั้งคู่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน